บทความ
มีใครตอนนี้อยู่ในวัยเบญจเพสบ้างค่ะ พูดถึงคำว่า เบญจเพส เชื่อว่าคนไทยทุกคนคงต้องเคยได้ยินมา และหลายคนก็สะกดผิดเป็น “เบญจเพศ” กลายเป็นเพศที่ห้าไปเลย (ไม่รู้เป็นเพศอะไรเหมือนกัน)
ความจริงแล้ว เบญจเพส มาจาก เบญจ ซึ่งแปลว่า ห้า และ เพส หรือวีส ซึ่งแปลว่า ยี่สิบ รวมความแล้ว เบญจเพส ก็หมายถึง ยี่สิบห้า นั่นเอง ดังนั้นวัยเบญจเพสก็คือ อายุ 25 ปี (แต่บางคนก็นับรวมถึงปีที่ลงท้ายด้วยเลข 5 เช่น 15 35 45… ไปด้วย แต่ไม่ตรงกับความหมายเดิมนัก)
เมื่อพูดถึงวัยเบญจเพสแล้วหลายคนก็คงจะทราบดีว่า ตามความเชื่อของคนไทยโบราณ วัยเบญจเพสเป็นช่วงเวลาที่ดวงชะตาชีวิตไม่ค่อยดี มักจะประสบเคราะห์ร้าย อาจจะเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย ประสบปัญหาในการเรียนหรือทำงาน หรือเกิดการสูญเสียหรือพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ฯลฯ
ที่แน่นอนว่าเรื่องดวงชะตานั้นก็เป็นเรื่องของความเชื่อของคนเรานี้ละคะ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นความจริงคือ วัยเบญจเพสหรือช่วงอายุ 25 ปี นั้นถือเป็นช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของมนุษย์แล้ว จากวัยรุ่นหนุ่มสาวในมหาวิทยาลัยก็ถึงเวลาที่ต้องเริ่มทำงานทำการสร้างฐานะ เป็นช่วงที่คนหนุ่มสาวเริ่มจริงจังกับความรักอย่างเต็มที่ หรือบางทีก็อยู่กับวุฒิภาวะของแต่ละคน และอื่น ๆ ที่สำคัญก็คือ ช่วงวัยเบญจเพสนั้นเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างวัยรุ่นกับผู้ใหญ่ ยังเป็นช่วงที่ยัง “ไฟแรง” ไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน และ “เลือดร้อน” ทำอะไรโดยขาดความยั้งคิดได้ง่ายอีกด้วย โดยคนส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั้นคนโบราณจึงตักเตือนให้คนในวัยนี้ให้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและมีสติอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ชีวิตด้วยความประมาทผิดพลาดพลั้งเผลอ จนทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อตัวเองและคนรอบข้างได้นั่นเอง
เราจึงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์เบญจเพสของเราในวัย 25 ปี ขอบอกตามตรงนะคะเราเจอหนักมากช่วงอายุ 24 ปี ก่อน 25 ปี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนมีปัญหา เรื่องงานติดขัดตลอด โดนเอารัดเอาเปรียบอยู่เสมอ ช่วงนั้นเราต้องออกมาทำงานพิเศษด้วย เพราะมางบ้านเจอปัญหาหนัก เลิกเรียนทุกวันหลังเลิกเรียนเราก็ออกทำงานเป็นปกตอแบบนี้ทุกวัน วันหนึ่งเรารีบเข้างานเราก็จอดรถไว้และเอาหมวกกันน๊อคห้อยที่รถ รอบนี้พอเลิกงานออกมา หายเลยค่ะหมวกกันน๊อคใบนั้น พอขี่รถกลับหอก็โดนรถเฉี่ยวอีก ช่วงนั้นคือเราไม่มีสติเลยค่ะ ใช้ชีวิตล่องลอยมาก ช่วงนั้นทั้งโดนเพื่อนโกงเงิน ที่ทำงานรับจ๊อบมาก็โกงเงิน รถล้ม และยังโดดนขับรถตามอีก ช่วงนั้นใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงมากคะ ไม่ซ้ำ ได้ข่าวจากที่บ้านว่าน้องชายเพียงคนเดียวเสียชีวิต ชีวิตเราโคตรจะดิ่งเลยตอนนั้นเจอทุกอย่างรับมือไม่ทัน ทำให้เราเป็นภาวะโรคซึมเศร้าไปเลย แย่มากจริงพอผ่าไปสักพัก น่าจะเกือบปีเราก็เข้าเบญจเพส แต่ทุกอย่างเราก็หนึ่งมาก ไม่ได้แย่ไม่ได้ดี เพราะก่อนเบญจเพสคือหนักมากแล้ว แต่อาจจะมีวุ่นวายบ้างแต่ไม่มากนัก พอดีเราอยู่หอคนเดียวค่ะส่วนมากใช้ชีวิตคนเดียวคุยกับเพื่อนน้อยมากไม่สนใจใครเลยมากกว่า ช่วงเบญจเพสของเราไม่ได้แย่จนสุดแต่ก่อนเบญจเพสคือหนักมาก เราเชื่อว่าเบญจเพสของแต่ละคนเหมือนกัน บางคนดีมาก แต่บางคนไม่ดีเลย แต่หนักสุดคือเสียชีวิต คงเคยได้ข่าวกันมาบ้างว่าเสียชีวิตกันเบญจเพสกันเยอะเราควรใช้ชีวิตอยู่ในความไม่ประมาทกับชีวิต
ทั้งนี้อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ในความไม่ประมาทดีที่สุด เพราะการใช้สติในการดำเนินชีวิตก็ยังสามารถที่จะแก้ปัญหาได้